การฉีดสเต็มเซลล์ คืออะไร มีอันตรายต่อร่างกายหรือไม่

การฉีดสเต็มเซลล์ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจในกลุ่มรักความงามและวงการสุขภาพไม่น้อย อีกทั้งเป็นเรื่องที่นักวิจัยทางการแพทย์ศึกษามานาน เพื่อนำใช้ประโยชน์กับผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวนมาก โดยปัจจุบันก็ได้มีการนำสเต็มเซลล์มาฉีดร่างกายเพื่อรักษาความงามตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วการฉีดสเต็มเซลล์มีประโยชน์เพียงอย่างเดียวหรือมีอันตรายแอบแฝงมาด้วย !! วันนี้เราเลยพาทุกคนมารู้ชัดจัดเต็มกับทุกมติของฉีดสเต็มเซลล์กันเลย

สเต็มเซลล์ คืออะไร

สเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะในร่างกายของเรา ซึ่งมีความความสามารถในการสร้างเซลล์ใหม่ได้เอง สามารถผลิตสเต็มเซลล์จำนวนมากขึ้นได้ด้วยตนเอง มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากเซลล์อื่น ๆ คือ สามารถแบ่งเซลล์ออกมาใหม่ จนกลายเป็นเซลล์พิเศษชนิดอื่น ๆ ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกัน ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้เอง ทำให้นักวิจัยทางการแพทย์สนใจนำมาพัฒนาเป็นตัวยาใหม่ ๆ และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมความงามอย่างแพร่หลาย รวมทั้งนำมารักษาบำบัดสำหรับคนมีบุตรยาก รักษาความผิดปกติของเลือด รักษาโรคทางด้านประสาทและสมอง และคงความอ่อนเยาว์ให้ร่างกาย

สเต็มเซลล์ สกัดจากไหน ?

 การฉีดสเต็มเซลล์ เป็นการนำเซลล์ต้นกำเนิดตามแหล่งกำเนิดธรรมชาติของสเต็มเซลล์มาสกัดใช้งานด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และนำมาฉีดร่างกายของเรานั้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  1. เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ หรือ Embryonic Stem (ESCs) เป็นเซลล์พิเศษที่ได้มาจากตัวอ่อนหลังการปฏิสนธิ 4-7 วัน ซึ่งได้มาจากการปฏิสนธินอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ พบได้ในเซลล์ชั้นในของตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์(Blastocyst) ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นของตัวอ่อนที่กำลังพัฒนา
  2. เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อผู้ใหญ่ (หรือเรียกว่า เซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกาย) หรือ Adult Stem Cell พบในเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ของร่างกายมนุษย์ โดยส่วนใหญ่สกัดจากเนื้อเยื่อไขกระดูก รวมทั้งเนื้อเยื่อที่กระจายกันอยู่ตามเซลล์หรืออวัยวะต่าง ๆ เช่น สายสะดือ รก กล้ามเนื้อ สมอง เนื้อเยื่อไขมัน ผิวหนัง ลำไส้ เป็นต้น

การฉีดสเต็มเซลล์ มีบทบาทกับร่างกายอย่างไร

สเต็มเซลล์ มีบทบาทสำคัญในเวชศาสตร์ฟื้นฟู เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่สามารถซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ที่เสียหายภายในร่างกาย การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ช่วยลดการอักเสบและปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ทำให้เป็นทางเลือกในการรักษาโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอล (MSCs) มีประโยชน์อย่างมากในการฉีดสเต็มเซลล์ เนื่องจากสามารถหาได้ง่ายจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เนื้อเยื่อไขมัน ไขกระดูก และเนื้อเยื่อสายสะดือ และเชื่อว่าช่วยให้เซลล์อื่น ๆ ในร่างกายอายุยืนขึ้น ช่วยซ่อมแซมความเสียหายของเซลล์ได้ นอกจากนี้ สเต็มเซลล์จากแหล่งกำเนิดที่แตกต่างกันก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันอีกด้วย เช่น

 

  1. สเต็มเซลล์ที่ได้มาจากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ UC-MSCs จะมีคุณสมบัติในการเพิ่มจำนวนเซลล์และสร้างเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้น โดยมีความโดดเด่นมากในเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งช่วยให้การรักษาโรคต่าง ๆ เกิดประสิทธิภาพมาก
  1. ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย การฉีดสเต็มเซลล์เป็นการฉีดเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูรักษาตัวเอง ด้วยสเต็มเซลล์มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลล์อื่น ๆ ได้ และเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหายได้ สเต็มเซลล์จึงถูกนำมาพัฒนามาเป็นเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด เพื่อใช้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด

 

  1. ความผิดปกติของระบบประสาท การฉีดสเต็มเซลล์เพื่อรักษาความผิดปกติของระบบประสาท มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและการรักษาโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ และโรคเส้นโลหิตตีบ ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายในการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคทางสมอง

การฉีดสเต็มเซลล์บำบัดผิว มีข้อดีอย่างไร

การฉีดสเต็มเซลล์ เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสเต็มเซลล์จะถูกสกัดออกจากเนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue ของคนไข้ แล้วนำมาสกัดด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้วฉีดกลับคืนสู่ผิวหน้าคนไข้ ด้วยคุณสมบัติของสเต็มเซลล์ที่สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ได้เอง และพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดใดก็ได้ โดยการฉีดการฉีดสเต็มเซลล์สามารถเต็มเติมจุดบกพร่องบนใบหน้าได้สมบูรณ์ ดังนี้

  • ช่วยกระตุ้นการหน้าที่ของเซลล์ดั้งเดิม
  • ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ แข็งแรง
  • ช่วยกระตุ้นฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอ เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแข็งแรง
  • ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเอิบอิ่ม หน้าเด็ก หน้าอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ช่วยลดริ้วรอย ซึ่งเราสามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าอย่างไร ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้
  • เพิ่มเซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่เป็นตัวกระตุ้นในการสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน

การฉีดสเต็มเซลล์บำบัดผิว ส่วนไหนได้บ้าง

การฉีดสเต็มเซลล์จะมีตำแหน่งการฉีดคล้ายกับฉีดโบท็อกซ์ตรงไหนได้บ้าง ปัญหาความงามฉีดได้ด้วยโบท็อกซ์ ใครก็ตามมีริ้วรอยไม่พึงประสงค์ ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย มีจุดด่างดำ รอยแผลเป็นบนผิวหนัง สามารถฉีดสเต็มเซลล์เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากสเต็มเซลล์ที่ใช้ในการรักษาจะสกัดออกจากตัวคนไข้เอง เช่น ต้นแขน ต้นขา แล้วนำไปสกัดเป็นสเต็มเซลล์ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียง แต่บางคลินิกก็จะมีการฉีดสเต็มเซลล์ที่สกัดมาจากสัตว์ หรือสเต็มเซลล์ที่สกัดจากไขมันมนุษย์ด้วยเช่นกัน หากเป็นคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และคนไข้ได้รับการฉีดสเต็มเซลล์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง

  1. ใบหน้า การฉีดสเต็มเซลล์ใบหน้าช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหนังบนใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น รวมทั้งความหย่อนยานของผิวเนื่องจากคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินที่ลดลง
  2. ร่องแก้ม ช่วยแก้ปัญหาผิวร่องแก้มที่มีริ้วรอยลึก ทำให้ใบหน้าแก่กว่าอายุจริง ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าเด็กลง
  3. ร่องใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาดูอิ่มฟูเป็นธรรมชาติ รักษาอาการร่องตาลึกโบ๋จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
  4. หน้าผาก ช่วยซ่อมแซมเซลล์ ลดรอยเหี่ยวย่นของผิวหน้าผาก ทำให้ผิวเต่งตึง ดูอิ่มฟูขึ้น
  5. ปาก ช่วยแก้ปัญหาปากแตก ปากแห้ง ช่วยลดริ้วรอยร่อยปาก ให้ทำปากอิ่มฟู ไร้รอยร่องลึก
  6. ลำคอ ใช้รักษาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย เนื่องจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลานติน
  7. มือ ช่วยขจัดปัญหาหลอดเลือดและจุดตำหนิต่าง ๆ ทำให้มือไม่เหี่ยว ผิวดูเต่งตึง ซึ่งเป็นผลมาจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังลดลงและเกิดความหย่อนยานนั่นเอง

การฉีดสเต็มเซลล์ อันตรายหรือไม่

ได้มีการศึกษาชองคลินิก Phoenix Regenerative Medicine ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่าอัตราความสำเร็จของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์อยู่ระหว่าง 80-90% แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทีมแพทย์ เทคโนโลยีที่ใช้ และเทคนิคของแพทย์ที่ใช้ฉีดสเต็มเซลล์ด้วย แต่ส่วนใหญ่ไม่พบอันตรายจากการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกาย เพราะเป็นการใช้เซลล์รักษาเซลล์ ซึ่งก่อให้เกิดผลดีกับร่างกาย

ข้อควรรู้ก่อนฉีดสเต็มเซลล์

การฉีดสเต็มเซลล์ในบางคลินิกจะมีใบเซอร์ของ Stem Cell ให้คนไข้ เพื่อการันตีว่าเราได้จำนวนเซลล์ครบ หากใครสนใจฉีดสเต็มเซลล์จากคลินิกไหน ก็ควรสอบถามข้อมูลส่วนนี้ด้วย เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าของเราเอง โดยคลินิกที่ดีจะมีขั้นตอนการดูแลเซลล์หลังฉีด เพื่อให้สเต็มเซลล์อยู่กับเราไปนาน ๆ

การฉีดสเต็มเซลล์ นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความงามและสุขภาพที่ล้ำหน้ามากในปัจจุบัน แถมช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ใบหน้าเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีการใช้เซลล์กระตุ้นเซลล์ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้น แม้ว่าการฉีดจะปลอดภัยแค่ไหน แต่ยังไงก็อย่าลืมศึกษาหรือสอบถามข้อมูลการฉีดสเต็มเซลล์จากคลินิกที่เราสนใจฉีดให้ครบถ้วน เพื่อความปลอดภัยของเราเองครับ

Leave a Reply

    0
    ตะกร้าของคุณ
    ตะกร้าของคุณว่างอยู่กลับสู่ร้านค้า
    Scroll to Top

    Discover more from Celvita Thailand

    Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

    Continue reading