กินปิ้งยาง เสี่ยงมะเร็งยังไง วิจัยและวิทยาศาตร์มีคำตอบ
สารบัญ
- อาหารปิ้งย่างมีสารก่อมะเร็ง
- สัญญาญเตือน อาหารปิ้งย่างมีสารก่อมะเร็ง จากหน่วยงานรัฐ
- เราควรหยุดกินอาหารปิ้งย่างไหม ?
- ความร้อนอาหารปิ้งย่าง เสี่ยงมะเร็ง ?
- การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปปิ้งย่าง เสี่ยงมะเร็ง ?
- ถ่านเป็นสารก่อมะเร็งในอาหารปิ้งย่าง ?
- ปลอดภัยจาก สารมะเร็ง ได้อย่างไร
- สำหรับคนมีไลฟ์สไตล์ลืมดูแลสุขภาพ
โรคมะเร็ง หลายคนเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการกินปิ้งย่างหรืออาหารรมควัน เช่น ขนมปังปิ้ง หมูย่างหน้าโรงเรียน บุฟเฟต์ปิ้งย่าง หมูกะทะ แล้วทำไมบางคนกินอาหารเหล่านี้บ่อย ๆ กลับไม่เป็นมะเร็งเลยล่ะ วันนี้เรามีคำตอบจากงานวิจัยและวิทยาศาตร์ มาฝากกันครับ
อาหารปิ้งย่างมีสารก่อมะเร็ง
ความเชื่อที่ว่าการกินอาหารปิ้งย่างทำให้เป็นมะเร็งนั้น มาจากสารอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารที่สัมพันธ์กับโรคมะเร็ง โดยสารอะคริลาไมด์เป็นสารประกอบที่ใช้ทั่วไปในการผลิตเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ในห้องน้ำ สีย้อม ผ้า กระดาษ และสิ่งทอ สารอะคริลาไมด์ในอาหารพบได้ในอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่น อาหารทอด อบ คั่ว ขนมปังปิ้งไหม้ ๆ และอาหารปิ้งย่าง เมื่อปรุงสุกจะมีแนวโน้มสะสมอะคริลาไมด์มากขึ้น โดยการก่อตัวของสารอะคริลาไมด์นี้เกิดขึ้นจากกระบวนการทำจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างน้ำตาลบางชนิดกับกรดอะมิโนชื่อว่า แอสพาราจีน (Asparagines) แต่ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นได้น้อยกว่าเมื่ออาหารถูกต้ม นึ่ง หรือไมโครเวฟ
โดยมีการศึกษาทดลองกับหนูในห้องทดลอง พบว่า เมื่อปรุงอาหารสุกที่อุณหภูมิสูงสูงกว่า 120 องศาเซลเซียส จะเกิดสารประกอบทางเคมีที่เรียกว่าอะคริลาไมด์ แล้วนำอาหารมาให้หนูทดลองกินอาหารที่มีอะคริลาไมด์ในระดับสูงติดต่อกันเวลานาน ระบบประสาทของหนูจะถูกทำลาย และเกิดเซลล์มะเร็งในหนูทดลองอีกด้วย
อีกทั้งมีการศึกษาต่าง ๆ ในอเมริกา พบว่า ผู้บริโภคอาหารที่มีสารอะคริลาไมด์ในปริมาณสูง อาจเพิ่มโอกาสการเติบโตของเซลล์เนื้องอกในเต้านมและต่อมไทรอยด์ รวมทั้งกระตุ้นการเกิดเซลล์มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเซลล์มะเร็งเยื่อหุ้มเซลล์อัณฑะ ส่งผลเชื่อมโยงไปยังเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในผิวหนังผู้ชายอีกด้วย รวมทั้งความเสี่ยงของการกระตุ้นเซลล์มะเร็งรังไข่และเยื่อบุโพรงมดลูก เนื้องอกในหลอดอาหาร ทำให้หน่วยงานตรวจสอบมาตรฐานอาหารในสหราชอาณาจักร (Food Standard Agency: FSA) ออกคำเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการบริโภคที่มีสารสารอะคริลาไมด์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
สัญญาญเตือน อาหารปิ้งย่างมีสารก่อมะเร็ง
ในปี พ.ศ. 2537 องค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดสารอะคริลาไมด์ให้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ อีกทั้งมีหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย รวมทั้งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนประชาชนที่นิยมกินอาหารปิ้ง ย่าง หรืออาหารประเภทรมควันไหม้เกรียมเป็นประจำ มีความเสี่ยงได้รับสารอันตราย 3 ชนิด ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ได้แก่
- กลุ่มสารพีเอเอช (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons : PAHs)
- สารไนโตรซามีน (Nitrosamines)
- สารพัยโรลัยเซต (Pyrolysates)
เราควรหยุดกินอาหารปิ้งย่างไหม ?
จากการศึกษางานวิจัยต่างประเทศ ระบุว่า การรับประทานอาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม ไม่ก่อให้เกิดมะเร็งหากบริโภคในปริมาณพอเหมาะ แต่ต้องควบคู่กับองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย เช่น ระยะเวลาในการกินบ่อยมากแค่ไหน กรรมพันธุ์ การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ ดังนั้น เราอาจไม่จำเป็นต้องเลิกกินอาหารปิ้งย่างเลยทีเดียว เพียงแค่หันมาลดอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ควบคู่กับการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็จะเป็นไลฟ์บาลานซ์ให้กับคนชอบกินปิ้งอย่างได้เช่นกัน
ความร้อนอาหารปิ้งย่าง เสี่ยงมะเร็ง ?
อาหารปิ้งย่างเป็นอาหารที่ใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหาร อีกทั้งเป็นอาหารที่อยู่ใกล้เปลวไฟมากที่สุด ซึ่งอาหารอยู่ใกล้เปลวไฟ ทำให้ได้รับควันไฟและความร้อนสูง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งหลัก 2 ชนิด ได้แก่ Heterocyclic Aromatic Amines (HCAs) และ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาการเผาไหม้ โดยสาร HCAs และ PAHs ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน DNA ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง อีกทั้งอาหารปิ้งย่างที่มีโปรตีน เมื่อเกิดการเผาไหม้ จะเกิดสาร HCAs ส่วนอาหารที่มีไขมัน เมื่อเกิดการเผาไหม้ เกิดเป็นควันไฟ ทำให้เกอดสาร PAHs
การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปปิ้งย่าง เสี่ยงมะเร็ง ?
มีการศึกษางานวิจัยปี 2010 ของมหาวิทยาลัย Vanderbilt ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่กินเนื้อย่างจำนวนมากมีความเสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการกินเนื้อสัตว์ไหม้เกรียมจำนวนมาก เช่น 2-3 มื้อ/1 สัปดาห์ เป็นเวลาหลายปี จะสร้างความเสียหายต่อเซลล์ดีต่าง ๆ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตามมา แต่เราสามารถลดความเสี่ยงจากเซลล์มะเร็วจากอาหารปิ้งย่างได้ ด้วยการย่างเนื้อสัตว์ด้วยแผ่นฟอยล์และหมักเนื้อสัตว์ด้วยสมุนไพรการและเครื่องเทศ นอกจากนี้ การบริโภคน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มเป็นจำนวนมาก ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โดยโรคอ้วนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอ้วนทุกคนจะต้องเป็นมะเร็ง เพียงแค่มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนน้ำหนักตัวปกติ
ถ่านเป็นสารก่อมะเร็งในอาหารปิ้งย่าง ?
การย่างด้วยถ่านมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรามีวิธีช่วยลดความเสี่ยง และทำให้อาหารปิ้งย่างเป็นมื้อปลอดภัยได้ ซึ่งขอบอกเลยว่าถ่านไม่ใช่สารก่อมะเร็ง แต่การปรุงอาหารด้วยถ่านมีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็ง โดยการปรุงอาหารด้วยถ่าน ทำให้เกิดควันมาก ซึ่งควันและการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิสูงของเนื้อสัตว์บางชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง อีกทั้งการย่างด้วยเตาถ่านทุกประเภท ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไม่เหมือนกัน ความจริงแล้วการย่างด้วยเตาถ่านบางชนิดถือว่าปลอดภัยมากเช่นกัน
ปลอดภัยจาก สารมะเร็ง ได้อย่างไร
อย่างที่ทราบกันดีว่า การปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงอย่างการปิ้งย่าง จะทำให้โปรตีนและไขมันในอาหารเปลี่ยนเป็น HCAs และ PAHs ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น คนที่ชื่นชอบอาหารปิ้งย่าง สามารถลดความเสี่ยงจากจากการได้รับสารก่อมะเร็งได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
- ตัดเนื้อสัตว์ส่วนที่มีไขมันออก โดยไขมันเมื่อเกิดการเผาไหม้จะมีสารก่อมะเร็งอย่างสาร PAHs หากต้องการลดสารก่อมะเร็ง เราจึงจำเป็นต้องตัดต้นตอของสารก่อมะเร็งอย่างเนื้อสัตว์ที่มีไขมันออก
- ลดระยะเวลาการปิ้งย่าง โดยปิ้งย่างอาหารเพียงแค่สุกให้มีสีเหลืองทอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้ความร้อนจากเปลวไฟในเวลานาน และลดควันจากการสะสมในอาหารย่างเป็นเวลานานด้วย
- ใช้เนื้อสัตว์ที่มีชิ้นบาง ๆ เพื่อช่วยลดระยะเวลาการสุก ทำให้ลดการรับความร้อนที่สูงเกินไป และลดการสะสมควันไฟที่มักมาคู่กับระยะเวลาการเผาไหม้ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ที่ไหม้ เพราะจะเสี่ยงการสะสมสารก่อมะเร็งมากขึ้นด้วย
การกินอาหารปิ้งเพียงครั้งสองครั้ง ไม่ได้ทำให้เราเป็นมะเร็งในทันที แต่หากเรามีพฤติกรรมการกินอาหารปิ้งย่างเป็นประจำจนลืมดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือ 11 วิธี กินอยู่อย่างไรให้อายุยืน ห่างไกลโรคร้าย ควบคู่การดูแลโภชนาการที่ถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน
สำหรับคนมีไลฟ์สไตล์ลืมดูแลสุขภาพ
โดยวันนี้เราได้เคล็ดลับห่างไกลโรคมะเร็งจากอาหารปิ้งย่างอย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยการเลือกบริโภคอาหารเสริมบำรุงร่างกายระดับพรีเมียม เพื่อฮิลใจคนรักสุขภาพ เราขอนำแนะนำผลิตภัณฑ์ Celvita ด้วยสารสกัด Telolab สารสกัดที่ต่อยอดจากรางวัลโนเบล ดูแลลึกถึงระดับโครโมโซม ช่วยเพิ่มความยาวเทโลเมียร์ ตัวชี้วัดอายุทางชีวภาพระดับเซลส์ ยิ่งยาวยิ่งเด็กลง ซึ่งเหมาะสำหรับคนมีไลฟ์สไตล์ลืมดูแลสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์ มีความเครียด พักผ่อนไม่พอ สูบบุหรี่ น้ำหนักกตัวเกิน ใครสนใจศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://celvita.co.th/
