8 เคล็ดลับหน้าเด็ก ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
อยากมีผิวพรรณดี หน้าเด็ก ผิวหน้ากระชับ แต่ไม่อยากเสียเงินเข้าคลินิกเสริมความงาม ต้องทำอย่างไรบ้างนะ ? เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ผิวของเราจะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้หลายคนอาจจะพบกับปัญหาเรื่องริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความแห้งกร้านบนผิวหน้า วันนี้เราจะมาแชร์ 8 เคล็ดลับที่จะช่วยให้หน้าเด็กและผิวดูอ่อนเยาว์ โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง ดังนี้
1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นปัจจัยพื้นฐานช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ทำให้สมองได้พักจากการทำงานหนัก ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ขณะที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ “ฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาว” ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดความเหี่ยวย่นจากรอยตีนกา ดังนั้น วัยทำงานหรือวัยผู้ใหญ่ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรนอนดึกเกินไป เพราะร่างกายจะหลั่งสารชนิดนี้ออกมามากสุดในช่วง 4 ทุ่ม ถึงตี 2
2. รับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์
You Are What You Eat. ยังคงเป็นประโยคคลาสสิกตลอดกาล หลายคนอยากมีสุขภาพดี ผิวพรรณดี แต่คงรับประทานอาหารที่ทำร้ายผิว ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานของมัน ของทอด อาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง ล้วนกระตุ้นต่อมไขมันของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวและริ้วรอยบนผิวหน้า ดังนั้น ลองหันมารับประทานอาหารดีมีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ พืชตระกูลถั่วจะช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง โดยเฉพาะปลาที่มีโอเมก้าสูงจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิวและบำรุงผิวให้สดใส เปล่งปลั่ง แค่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารก็จะส่งผลให้ริ้วรอยมาช้ากว่าวัยอันควร รวมทั้งสุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
3. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
รู้หรือไม่ว่า รังสี UVA และ UVB เป็นสาเหตุหลักในการทำร้ายผิวทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาความหมองคล้ำจากฝ้า กระ และจุดด่างดำแล้ว ยังก่อให้เกิดสิวและริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมาอีกด้วย ทางออกที่ดีสุดในการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดคือ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง เมื่อเราอยู่ในที่ร่มแค่ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่ออยู่กลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ถึง 50 และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 3 ชั่วโมง จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ที่สำคัญต้องเลือกครีมกันแดดที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย
4. ใช้สกินแคร์ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
การเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยการใช้สกินแคร์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นตัวช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ซึ่งเห็นผลได้ในระยะเวลาอันสั้น ยังช่วยให้ผิวหน้าเด้งฉ่ำน้ำ ผิวไม่แห้งกร้าน ส่งผลให้หน้าเด็กกว่าอายุจริง สกินแคร์ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ควรมีส่วนผสมจากเซราไมด์ (Ceramides), กลีเซอรีน, (Glycerin), เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) และไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เพราะส่วนผสมทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนมีสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ผิวอิ่มฟู และลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ นอกจากนี้ ต้องเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและแก้ปัญหาได้ตรงจุด จึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
5. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน
การดื่มน้ำเปล่าเป็นวิธีที่ลงทุนน้อย แต่ได้ผลมหาศาล นักวิจัยพบว่า น้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการมากที่สุด เพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่วยให้หัวใจและสมองทำงานดีขึ้น หากดื่มน้ำเปล่าน้อยกว่า 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน จะส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ว่าจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ระบบการขับถ่ายมีปัญหา ทำให้ผิวพรรณไม่สดใส ริมฝีปากแห้งกร้าน ก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมา เห็นไหมครับว่า น้ำเปล่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากเพียงใด ใครอยากมีผิวพรรณสดใส ร่างกายแข็งแรง ก็อย่าลืมจิบน้ำระหว่างวันกันด้วยนะครับ
6. รับประทานอาหารเสริมที่ต้านอนุมูลอิสระ
หากเราต้องการรับประทานอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ จำเป็นมากที่เราต้องรู้เคล็ดลับ ย้อนวัย ให้เด็กกว่าอายุจริง ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าและผิวกายเปล่งปลั่งสดใส ที่สำคัญใครต้องการหน้าเด็กควรรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจาก Superfoods รวมทั้งอาหารเสริมที่มีเทโลเมียร์เป็นส่วนผสม เพราะช่วยชะลอวัยในระดับเซลล์ แถมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่สำคัญต้องมี อย. รับรองความปลอดภัย เพื่อการันตีคุณภาพได้มาตรฐาน และผ่านการรับรองจากงานวิจัยที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ ควรเลือกอาหารเสริมย้อนวัยที่มีนวัตกรรม Telolab ซึ่งสามารถยืดความยาวของเทโลเมียร์ เพราะเทโลเมียร์จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ หากเรารับประทานอาหารเสริมที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพและมีผิวพรรณที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กระฉับกระเฉง ตื่นตัว และช่วยลดความตึงเครียด ยังช่วยให้ผิวพรรณและหน้าตาดูเด็กกว่าอายุจริงอีกด้วย เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว แถมช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวสุขภาพดี ใบหน้าเด็ก ผิวเลยเปล่งปลั่งสดใส แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป เพราะแทนที่หน้าเด็กอาจจะกลายเป็นผิวหน้าโทรมโดยไม่รู้ตัว
8. ทำจิตใจให้ผ่องใส เบิกบาน
เคยสังเกตไหมคะว่าคนที่อารมณ์ดี ชอบยิ้มแย้ม หัวเราะง่าย จะเป็นคนที่ดูอ่อนวัยและสดใสอยู่เสมอ แม้จะมีอายุมากแล้วก็ตาม โดยนักวิจัยพบว่า คนที่มีลักษณะดังกล่าวร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือ “สารแห่งความสุข” ดังนั้นเมื่อเรามีความรู้สึกในแง่บวกจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด ในทางตรงกันข้าม หากเราอยู่ในบรรยากาศที่ไม่ดีหรือมีความรู้สึกในแง่ลบสารชนิดนี้จะหลั่งออกมาน้อย ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด ความวิตกกังวล ความไม่สบายใจ หรือความโกรธ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอย เช่น การขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว การเลิกคิ้วเมื่อมีการตั้งคำถาม การยกมุมปากหรือการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าต่าง ๆ ดังนั้น การทำจิตใจให้ผ่องใส เบิกบานอยู่เสมอ จะส่งผลให้เรามีผิวหน้าที่สดใสและช่วยชะลอวัยได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 8 เคล็ดลับที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเข้าคลินิกเสริมความงาม เพียงแค่ลองเปิดใจและปรับกิจวัตรประจำวันของเรา ก็จะช่วยให้สุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอีกด้วย
