คนวัยทอง คืออะไร ใครบ้างเสี่ยงวัยทอง
วัยทอง หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้กันบ่อย ๆ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าอาการวัยทองไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่วัยทองเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ โดยคำจำกัดความวัยทองในเพศหญิงจะเป็นวัยหมดประจำเดือน ซึ่งส่งผลให้หญิงวัยนี้เกิดการแปรปรวนทางด้านร่างกายและจิตใจมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักพบเจออาการวัยทองในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย หลายคนจึงมักเข้าใจว่าอาการวัยทองเกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งอาการวัยทองคืออะไร วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักอาการวัยทองแบบเจาะลึกกันครับ
วัยทองคืออะไร
วัยทอง (Menopause) คือ วัยของผู้หญิงและผู้ชายที่มีอายุในช่วง 40-59 ปี ตามธรรมชาติผู้หญิงส่วนใหญ่จะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนระหว่างอายุ 45-55 ปี โดยเฉลี่ยวัยทองของผู้หญิงอยู่ที่อายุประมาณ 51 ปี ในช่วงนี้จึงเกิดภาวะ perimenopause หรือการเปลี่ยนแปลงของวัยหมดประจำเดือนเกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รอบการตกไข่ และการเริ่มมีอาการผิดปกติของรอบเดือนและอาการต่าง ๆ จนนำไปสู่ประจำเดือนครั้งสุดท้าย
ลักษณะเด่นของวัยก่อนหมดประจำเดือน จะมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ รอบเดือนสั้นลงหรือยาวขึ้นได้ อาจรวมถึงอาการร้อนวูบวาบและเหงื่อออกตอนกลางคืน ปวดเมื่อย อ่อนเพลียหรือหงุดหงิด รวมถึงอาการก่อนมีประจำเดือน เช่น เจ็บหน้าอก แม้ว่าผู้หญิงอาจมีรอบเดือนและการตกไข่ไม่สม่ำเสมอ แต่การตั้งครรภ์อาจเกิดขึ้นได้และจำเป็นต้องคุมกำเนิด ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการวัยหมดระดูเป็นเวลา 5-10 ปีก่อนที่จะมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย
กลุ่มเสี่ยงวัยทอง
1. ผู้ที่มีอายุ 40-59 ปี
วัยทองมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้หญิงและผู้ชายที่มีอายุในช่วง 40-59 ปี โดยผู้หญิงมีโอกาสวัยทองสูงกว่าผู้ชาย ซึ่งอยู่ระหว่างวัยเจริญพันธุ์และวัยผู้สูงอายุ ช่วงนี้การผลิตฮอร์โมนเพศลดน้อยลงจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยผู้ชายที่เข้าสู่วัยทองจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 45- 55 ปี
ผู้หญิงวัยทองอาจมีอาการร้อนวูบวาบ (Hot Flush) โดยเฉพาะบริเวณลำตัวส่วนบน เช่น บริเวณหน้า คอ และอก เหงื่อออก หนาวสั่น วิตกกังวล หรือใจสั่นได้ อาการเหล่านี้อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และการนอนหลับยากขึ้นได้ บางรายมีอาการช่องคลอดแห้ง ติดเชื้อและคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ สำหรับอาการของผู้ชายวัยทองขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละบุคคลในตอนต้นของชีวิตประกอบด้วย เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงความเครียด การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้อาการวัยทองเกิดได้เร็วกว่าปกติจะเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความอ้วน การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง โรคตับ ไตวาย
2. ผู้หญิงวัยหมดระดู
วัยทองแต่ละบุคคล จะเกิดขึ้นในช่วงอายุที่แตกต่างกัน บางคนประจำเดือนหมดเร็ว บางคนประจำเดือนหมดช้า แต่เราสามารถสังเกตได้จากการมาของประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอเหมือนแต่ก่อน อาจจะเริ่มสังเกตได้หลังอายุ 40 ปี พอขึ้นอายุ 45 ปี ประจำเดือนผิดปกติชัดเจนขึ้น บางครั้ง 2 – 3 เดือนมาครั้ง เพราะรังไข่ผลิตฮอร์โมนน้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน “สตรีวัยทอง” หรือสตรีวัยหมดประจำเดือน หรือวัยหมดระดู หมายถึง สตรีในวัย 40 – 59 ปี ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง เนื่องจากรังไข่หยุดทำงาน ซึ่งทำให้สิ้นสุดการมีประจำเดือนอย่างถาวรร่วมด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามมา แบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
– ระยะก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause) เป็นระยะเริ่มของการหมดประจำเดือน ทำให้สตรีมีประจำเดือนมาผิดปกติ ร่วมกับมีอาการทางร่างกาย เช่น ร้อนวูบวาบ มึนศีรษะ อ่อนเพลีย อารมณ์จะแปรปรวน ซึ่งระยะนี้จะเกิดประมาณ 2-3 ปี
– ระยะหมดประจำเดือน (Menopause) เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่การหมดประจำเดือนมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี
– ระยะหลังหมดประจำเดือน (Post Menopause) เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่หลังหมดประจำเดือนมาแล้ว 1 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ช่องคลอดตีบแคบ กระดูกพรุน และเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
3. ผู้หญิงที่ถูกตัดรังไข่และท่อนำไข่ทั้งสองข้าง
ผู้หญิงที่ถูกตัดรังไข่และท่อนำไข่ทั้งสองข้าง จะถือว่าเข้าภาวะวัยทองก่อนวัย ซึ่งอาจมีอาการแสดงได้หลายแบบ เช่น อาการร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ภาวะผิวแห้ง ความยืดหยุ่นลดลง หรือช่องคลอดแห้งจนอาจมีผลต่อเพศสัมพันธ์ ภาวะไขมันในเลือดสูง ในระยะยาวจะมีภาวะกระดูกบางก่อนวัย ซึ่งมีความเสี่ยงต่อกระดูกพรุน กระดูกหักง่าย รวมถึงความจำที่อาจเกิดช้าลง
ซึ่งภาวะวัยทองก่อนวัย ควรได้รับการดูแลป้องกันและติดตามให้มีผลกระทบน้อยที่สุดหรือช้าที่สุด ไม่ว่าจะได้รับฮอร์โมนทดแทนระยะสั้น หรือสารสังเคราะห์ทดแทนที่ไม่ใช่ฮอร์โมนเอสโตรเจน ในรายที่มีความจำเป็น แต่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำจากสูตินรีแพทย์ ศัลยแพทย์ และอายุรแพทย์ หรือเลือกที่จะใช้การปฏิบัติตัว ปรับพฤติกรรม และอาหารให้เหมาะสมเพียงพอ ออกกำลังกาย ร่วมกับการใช้ครีมบำรุงผิว หากไม่ใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษา
การรับมือกับภาวะวัยทอง
วัยทองเป็นช่วงเวลาของชีวิตผู้หญิงแห่งการเปลี่ยนแปลงและเป็นจุดสิ้นสุดของภาวะเจริญพันธุ์ ซึ่งช่วงดังกล่าวนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายหลายอย่าง เราจึงควรมีการรับมือกับภาวะวัยทอง ดังนี้
- เข้ารับการตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิงทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตรวจมะเร็งเต้านม เป็นต้น การตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้หญิงจะช่วยให้รู้สุขภพองค์รวมอย่างครอบคลุม และป้องกันปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคตได้อีกด้วย
- ให้ความสำคัญกับการนอน การนอนหลับเป็นวิธีที่ง่ายสุดในการรับมือกับภาวะวัยทอง เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนช่วงวัยทองได้ดี โดยเฉพาะคนวัยทองที่นอนหลับไม่เพียงพอจะเกิดอาการหงุดหงิดและอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายกว่าคนวัยทองที่นอนอย่างเพียงพอ
- ฝึกบริหารอุ้งเชิงกราน เกือบ 30% ของผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 50-64 ปี มีอาการปัสสาวะเล็ด เนื่องจากปัญหาการสูญเสียฮอร์โมนเอสโตรเจนจากการตั้งครรภ์ การคลอดบุตรในอดีต และเมื่อเทียบกับผู้ชายที่เข้าสู่วัยทองจะมีอาการปัสสาวะเล็ดเพียง 5% เท่านั้น
- เตรียมน้ำเย็นไว้ให้พร้อม สำหรับผู้หญิงหลายคนจะมีอาการร้อนวูบวาบตามตัวทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน การดื่มน้ำเย็นระหว่างที่มีอาการ จะช่วยให้ร่างกายเย็นลง แถมช่วยลดความรุนแรงของอาการได้
- ออกกำลังกาย 30 นาที อย่างน้อย 5 วัน การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เป็นประจำสัปดาห์ละ 5 วัน จะช่วยให้เรารับมือกับภาวะวัยทองได้ดี ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ผ่อนคลายความเครียด แถมช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าอย่างไร ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ได้อีกด้วย
- รับแคลเซียมและวิตามินดีให้เพียงพอ เมื่อเราเข้าสู่วัยทองระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้
- คู่สมรสควรมีการพูดคุยอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับความต้องการและปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ หากมีปัญหาควรปรึกษาแพทย์
- ลองใช้สารหล่อลื่น การสูญเสียฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่วงวัยทอง ส่งผลต่อสุขภาพและการทำงานของช่องคลอด ซึ่งนำไปสู่ปัญหาชีวิตคู่ได้ หากช่องคลอดแห้งและเกิดความเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เราสามารถใช้สารหล่อลื่น เพื่อนำมาแก้ปัญหาช่องคลอดแห้งได้
หากเราเรียนรู้และเข้าใจภาวะวัยทอง จะรู้ว่าวัยทองไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่เราต้องเรียนรู้และเข้าใจกับธรรมชาติของวัยทอง จะช่วยให้ชีวิตสามารถก้าวผ่านช่วงวัยทองอย่างราบรื่น ใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะวัยทองอย่างเข้าใจ และหาจุดสมดุลชีวิตได้อย่างมีความสุข
